Loading...

กำลังหอบเงินไปใช้หนี้ แวะเข้าห้องน้ำ ถูกป้ายยา รูดเกลี้ยง ได้ยินเสียงคุย เสร็จยัง



เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 5 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ธีธัชช์ พงษ์สุวรรณ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ถึงกรณีที่มีผู้เสียหายถูกมอมยารูดทรัพย์ในตลาดสดเทศบาลบ้านไผ่ ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงสายในวันเดียวกันว่า ร.ต.อ.ประนอม มะลาหอม รองสว.(สอบสวน)สภ.บ้านไผ่ รับแจ้งเหตุคนร้ายมอมยารูดทรัพย์ในตลาดสดเทศบาลบ้านไผ่ จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านไผ่ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียหายชื่อว่า นางชญานันท์ พวงสี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 บ้านดอนปอแดง ม.ที่ 16 ต.โคกสำราญ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ยืนตัวสั่นอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า เดินทางออกจากบ้านมาทำธุระในเมืองบ้านไผ่ โดยสามีเป็นคนขับรถพามา มีเงินสดติดตัวมา 7,000บาท เมื่อถึงในเมืองบ้านไผ่ได้กดเอทีเอ็ม 2 ครั้งรวมเป็นเงิน 4,500 บาท จากนั้นสามีได้จอดรถอยู่ริมถนน ส่วนภรรยาเดินเข้าไปในตลาดสด และได้ไปเข้าห้องน้ำในตลาด เมื่อออกจากห้องน้ำจึงรู้ตัวว่าเงินหาย 11,500 บาท พร้อมแหวนทองคำ 1 วง น้ำหนัก 1 สลึง มูลค่า 5,300 บาท และผู้เสียหายให้การอีกว่า ขณะกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำได้แวะที่แผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล จากนั้นก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาจับแขน 3 ครั้งทักทายเหมือนเป็นคนรู้จัก จากนั้นก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งเข้าห้องน้ำ และออกจากห้องน้ำจึงรู้ว่าเงินหาย

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความไว้เป็นที่เรียบร้อย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็ลงพื้นที่สืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่ผู้เสียหายเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อหาเบาะแสของผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย รวมถึงการนำปัสสาวะของผู้เสียหายส่งตรวจ เพื่อหาสารอันตราย ที่อาจจะเป็นสารอันตรายที่คนร้ายมอมยาผู้เสียหายก็เป็นได้ ซึ่งต้องรอผลตรวจจากแพทย์จึงจะรู้ว่าผู้เสียหายถูกป้ายยาหรือมอมยาเพื่อรูดทรัพย์หรือไม่ ซึ่งตำรวจก็ไม่นิ่งนอนใจเพราะจากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายมีการกดเงินจริง เชื่อว่าน่าจะมีคนร้ายลงมือชิงทรัพย์จากผู้เสียหายจริง ซึ่งจะเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นางชญานันท์ พวงสี ผู้เสียหายที่บ้านพัก และได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้ตำรวจตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะไอยากให้คนร้ายไปก่อเหตุกับคนอื่นๆอีก โดยก่อนเกิดเหตุนั้น บิดาให้เข้าไปในตัวเมืองบ้านไผ่ พร้อมเงินสด 7,000 บาท และให้ไปกดเอทีเอ็มมาเพื่อให้เป็น 10,000บาท เพื่อจะไปใช้หนี้ ธกส. เมื่อเดินทางถึงตัวเมืองบ้านไผ่ก็ไปกดเงินมารวมกับเงินสดที่มีอยู่ในกระเป๋า และแยกเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ใบเล็ก 2 ใบๆแรกจำนวน 10,000บาท อีกใบจำนวน 1,500 บาท ส่วนแหวนทองใส่กล่องทองแยกไว้ในช่องของกระเป๋าสะพาย เมื่อถึงตลาดสามีได้จอดรถรออยู่ที่ถนนใกล้ทางเข้าตลาด

เดินเข้าตลาดเพื่อไปซื้อเสื้อสีฟ้า เตรียมใส่วันแม่วันที่ 12 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ช่วงกำลังเดินเข้าตลาดก็คล้องกระเป๋าถือแบบหญิงที่แขนข้างขวา ในกระเป๋าก็มีเงินสดที่พ่อให้มาและเงินสดที่เพิ่งกดเอทีเอ็ม รวมถึงแหวนทองและเอกสารสำคัญต่างๆ ขณะเดินผ่านแผงขายล็อตเตอรี่ก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาจับแขนทักทายเหมือนเป็นคนรู้จักจากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีก มารู้สึกตัวอีกทีก็มองเห็นกระเป๋าของตัวเองวางอยู่ข้างๆ จึงหยิบกระเป๋าและเดินไปที่ร้านขายเสื้อเพื่อจะเข้าห้องน้ำ เมื่อเดินออกจากห้อน้ำจะจ่ายค่าห้องน้ำ 3 บาท จึงรู้ว่าเงินหาย แหวนทองก็หาย และเล่าให้สามีฟัง

และเชื่อว่าตัวเองถูกคนร้ายป้ายยา มอมยาเพื่อรูดทรัพย์ จึงอยากเตือนประชาชนให้ระวังตัวอย่าเก็บทรัพย์สินของมีค่าไว้ในตัว เพราะจะถูกคนร้ายป้ายยา มอมยารูดทรัพย์ได้ และขอให้ตำรวจตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว จะได้ไม่ก่อเหตุกับคนอื่นอีก

เรียบเรียงโดย นัสฐริกา ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ขอนแก่น


EmoticonEmoticon

Note: only a member of this blog may post a comment.